เตือนภัย !! 10 วิธีโกงของ “ผู้รับเหมาก่อสร้าง” รู้ไว้ก่อนดีกว่าแก้


ข่าวสาร admin 5 ก.ค. 2560

ในการสร้างบ้าน เราก็คงไม่สามารถสร้างเองได้ ทำให้ต้องอาศัย ‘ผู้รับเหมาก่อสร้าง’ ทั้งรายเล็กรายใหญ่ที่มีอยู่ในตลาด บางรายก็ดี แต่บางทีอาจโชคร้ายเจอคนเลวหลอกลวง

หลายๆ ครั้ง ที่การว่าจ้างผู้รับเหมาสำหรับงานก่อสร้าง ออกแบบ หรือต่อเติมต่างๆ เกิดปัญหาขึ้นมา โดนหลอกลวงต้มตุ๋นจนเป็นเหตุต้องให้เสียเงินไปโดยไร้ประโยชน์ แถมยังเสียความรู้สึกอีกต่างหาก ในวันนี้เราจะมาดู 10 วิธีโกง ที่เรามักจะพบเจอกันได้บ่อยๆ ค่ะ 

1. วัสดุก่อสร้างไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้
เป็นกรณีที่ผู้รับเหมาโกงวัสดุโดยเอาวัสดุเกรดต่ำกว่าที่ได้ตกลงกันไว้มาใช้ในการก่อสร้างต่อเติมไม่ตรงตามแบบที่ผู้ว่าจ้างต้องการ

2. สัญญาคลุมเครือ ไม่ชัดเจน
อาศัยช่องว่างทางกฎหมาย สัญญาจ้างที่ผู้รับเหมาส่วนใหญ่ร่างมาจะอาศัยช่องว่างทางกฎหมายเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในชั้นศาลเมื่อเกิดการฟ้องร้องขึ้น ดังนั้นการทำสัญญาต้องทำด้วยความรอบคอบเพราะผู้ว่าจ้างอาจจะเสียเปรียบในกรณีที่ต่อสู้ในชั้นศาลได้

3. เบิกเงินก่อนล่วงหน้า
ปัญหาการเบิกเงินก่อนล่วงหน้าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจำโดยผู้รับเหมาชอบอ้างว่าเงินไม่พอจะซื้ออุปกรณ์ ไม่พอสำหรับค่าใช่จ่ายสำหรับจ่ายค่าคนงานทำให้นายจ้างใจอ่อนยอมให้ผู้รับเหมาเบิกเงินล่วงหน้าไปก่อน เมื่อผู้รับเหมาได้เงินครบก็ทิ้งงานทันที

4. ผู้รับเหมาเปลี่ยนทีมช่างชุดเดิม
ในช่วงแรกผู้รับเหมาจะนำช่างที่มีประสบการณ์ทำงานเข้ามาทำงานทำให้ผู้ว่าจ้างเชื่อใจในฝีมือการทำงานว่าน่าจะทำออกมาได้ดี แต่หลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนเอาช่างมือใหม่เข้ามาทำ จากเดิมที่มีช่างฝีมือจริงอยู่ 5 คน หลังๆอาจจะเหลือเพียง 2 คน ทำให้งานที่ออกมาค่อนข้างล่าช้าไม่เสร็จตามกำหนด และไม่ปราณีตอย่าที่คิดเอาไว้

5. ผู้รับเหมาไม่เข้าหน้างาน
อีกปัญหาคือผู้รับเหมาไม่เข้าไปดูงานปล่อยให้ลูกน้องทำไปเรื่อยๆไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องทำให้งานที่ออกมาอาจจะมีความคลาดเคลื่อน และคนงานอาจโกงได้

6. ผู้รับเหมาขาดความรับผิดชอบ
นัดเจอผู้รับเหมาไม่เป็นนัด รับปากจะทำให้แต่เอาเข้าจริงๆกลับไม่ได้ทำ ติดต่อยาก ปิดมือถือ และอาจจะถึงขั้นทิ้งงานในที่สุด

7. โกงเงินมัดจำ
ผู้รับเหมาบางรายจะเรียกเงินมัดจำก้อนแรกสูงๆ เช่น 40% ของมูลค่างานทั้งหมด เมื่อได้เงินมัดจำไปแล้วก็ทิ้งงานทันทีหรืออาจจะทำงานช้า ไม่ค่อยเข้างานจนเราต้องเลิกจ้าง เป็นต้น

8. แก๊งหลอกลวงทาง Internet
ปัจจุบันโลกออนไลน์เข้าถึงผู้คนมากขึ้นทำให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหลายรายใช้ช่องทางออนไลน์ในการติดต่อทางธุรกิจและมีผู้ว่าจ้างหลายคนที่ใช้สื่อออนไลน์ในการประกาศหาผู้รับเหมา ทำให้ตกเป็นเหยื่อของผู้รับเหมาที่ต้องการจะหลอกลวง ดูภายนอกอาจจะทำให้ดูน่าเชื่อถือพูดจาหว่านล้อมสุดท้ายก็เชิดเงินหนี

9. ฮั้วประมูล
เป็นกรณีที่มักจะเกิดขึ้นกับวงการก่อสร้าง โดยผู้รับเหมามีความต้องการร่วมกันที่จะให้ราคารับเหมาไม่ต่ำจนเกินไปหรือไม่ให้ถูกตัดราคาจากผู้รับเหมาที่ยื่นประมูลร่วมกัน ทำให้ผู้รับเหมาต่างฝ่ายต่างเข้ามาคุยเพื่อหาจุดที่ลงตัวที่สุดในการประมูลต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ (Win-Win) แล้วค่อยแบ่งผลประโยชน์ตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้ การฮั้วประมูลจะทำให้ราคาค่าก่อสร้างโดยรวมดูสูงกว่าปกติจากผู้ยื่นประมูลจะส่งผลกระทบต่อผู้ว่าจ้างทำให้ต้นทุนการก่อสร้างสูงกว่าความเป็นจริง

10. ผู้รับเหมาทิ้งงาน
ปัญหาที่เจอกันเป็นประจำสำหรับผู้รับเหมาที่ทิ้งงานแล้วเชิดเงินหนี ทำงานช้า ไม่เสร็จตามแผนที่วางเอาไว้มาก

สำหรับแนวทางการป้องกันการโกง ควรทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ค่ะ

1. การทำสัญญาควรทำให้ละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ควรใช้เพียงแค่คำพูดในการสั่งงาน เพราะถ้าหากทำมาผิดจากที่ตกลงกันก็จะมีหลักฐานไว้สำหรับยืนยันกับผู้รับเหมาได้

2. ควรทำบัญชีแสดงปริมาณวัสดุ B.O.Q. (Bill of Quantities) ปริมาณ ราคา แบรนด์สินค้าที่จะสั่งเข้ามาให้ชัดเจนถูกต้องตามแบบที่ต้องการ

3. การจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเหมาควรแบ่งจ่ายออกเป็นหลายๆงวดพื่อไม่ให้เงินที่จ่ายในแต่ละครั้งเยอะจนเกินไป และยังเป็นแรงจูงใจให้ผู้รับเหมารีบทำงานให้เสร็จด้วย หลีกเลี่ยงปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน

4.การจ่ายเงินมัดจำอาจจะจ่ายเพียง 10% ก่อนเพื่อดูความเชี่ยวชาญ ความถนัดของผู้รับเหมาก่อน


5. ถ้าผู้รับเหมาขอเบิกเงินค่างวดล่วงหน้าหรือมีข้ออ้างว่าเงินไม่พอจะซื้อวัสดุทำให้ก่อสร้างต่อไม่ได้ ผู้ที่เป็นผู้ว่าจ้างไม่ควรใส่ใจและไม่ควรใจอ่อนเพราะตอนที่ผู้รับเหมาประเมินงานผู้รับเหมาต้องมีเงินพร้อมสำหรับการก่อสร้างอยู่แล้ว ถ้าผู้รับเหมาไม่มีเงินแล้วอ้างเหตุผลต่างๆมากมาย ก็ควรจะเลิกจ้างเพราะอย่างไรก็ตามเราก็จ่ายเงินเป็นงวดๆ มีเงินเหลือเพียงพอสำหรับจ้างผู้รับเหมาชุดใหม่เข้ามาอยู่แล้ว

6. ในสัญญาควรมีแผนการจ่ายเงินที่ชัดเจนว่างานผ่านไปกี่เปอร์เซ็นต์จะจ่ายอย่างไรเพื่อไม่ให้ถกเถียงกันตอนหลัง และควรทำเป็นลายลักษณ์อักษรให้รับทราบทั้งสองฝ่ายด้วย

7. ผู้ว่าจ้างควรจะเข้าไปตรวจดูงานที่ผู้รับเหมาทำบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ผู้รับเหมาทำงานออกนอกลู่นอกทางและยังเป็นวิธีการป้องกันการโกงวัสดุก่อสร้างผิดจากที่ตกลงกันไว้ การเข้าไปดูงานควรเข้าไปแบบสุ่มเวลาไม่ควรไปเวลาเดิมทุกครั้ง และยังทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

8. ควรคัดเลือกผู้รับเหมาที่มีผลงานชัดเจนเป็นสิ่งปลูกสร้างให้เห็น ไม่ใช่เพียงแค่ตัวกระดาษแผ่นเดียวแล้วบอกว่าเคยผ่านโครงการเหล่านี้มาเพราะอาจจะถูกหลอกลวงจากแก๊งต้มตุ๋นได้

9. ถ้าเป็นไปได้ควรจ้างผู้รับเหมาเฉพาะค่าแรง ส่วนวัสดุเราไปหาซื้อเองเพื่อป้องกันปัญหาการโกงวัสดุ

10. ถ้าหากเป็นโครงการขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ควรจ้างผู้เชี่ยวชาญ วิศวะกร ที่ปรึกษา มาช่วยในการคุมงานเพราะจะเข้าใจในเรื่องการก่อสร้างมากกว่า

 เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เวลาจะว่าจ้างผู้รับเหมา ก็ตัดสินใจให้ถี่ถ้วนรอบคอบเสียก่อนนะครับ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียทรัพท์สินไปเปล่าๆ ทางเว็บในบ้านเป็นห่วง ^_^

ที่มา:  terrabkk












Sirispace New update