3. เมื่อตัดไม้ได้ตามความกว้าง x ยาวที่ออกแบบไว้แล้ว ให้นำไม้มาตัดเฉียง 45 องศาบริเวณปลายทั้ง 2 ข้าง เสร็จแล้วลองประกอบร่างโดยไม่ต้องใส่กาวดูความเรียบร้อยของงาน

4. นำสว่านไฟฟ้ามาใส่ดอกใบพายสำหรับเจาะรู มาเจาะรูลงบนแผ่นแผงไฟที่เราเตรียมไว้ในข้อ 1. ขั้นตอนนี้ให้หาเศษไม้ที่ไม่ใช่แล้วมารองเอาไว้ด้วยครับ เพื่อป้องกันดอกสว่านเจาะทะลุลงไปโดนโต๊ะทำงาน

5. ต่อไปเป็นการเตรียมเพลาะแผ่นไม้ 2 แผ่นเข้าด้วยกัน สำหรับท่านที่มีจิ๊กสำหรับเจาะรูเฉียงจะเพลาะง่ายขึ้นมากครับ เพียงนำไม้มาใส่ที่จิ๊ก แล้วใช้ดอกสว่านเจาะลงไป ประมาณ 3-4 รู ก็ทากาวแล้วใช้สกรูยึดไม้สองแผ่นติดกันได้เลย แต่ถ้าใครที่ไม่มีอาจจะต้องเพลาะแบบบังใบ หรือจะเพลาะโดยใช้แค่กาวประสานก็ได้แต่จะไม่ค่อยแข็งแรง

6. เมื่อเตรียมไม้ครบถ้วนแล้วก็เริ่มประกอบตัวกล่อง ชิ้นงานนี้เจ้าของอยากให้กรอบดูสูงกว่าแผงไม้เล็กน้อย จึงใช้วิธีทำง่าย ๆ คือหาไม้รองส่วนแผงไม้ที่เจาะรูให้อยู่ต่ำกว่าไม้กรอบนิดหน่อย จากนั้นก็ใส่กาวแล้วนำไม้กรอบมาวางประกบข้าง และยิงด้วยปืนยิงตะปูลม

7. สำหรับคนที่ต้องการทำสีก็เตรียมพื้นผิวด้วยการขัดด้วยกระดาษทรายให้เรียบร้อย ลงน้ำยาป้องกันเนื้อไม้ แล้วทาสีได้ตามชอบ

8. นำแผ่นไม้ที่จะใช้ติดเป็นฐานรองรับโคมไฟแขวนบนเพดานมาหาจุดกึ่งกลางแล้วเจาะรูใส่ตะขอแขวน จากนั้นนำกล่องโคมไฟมาเจาะมุมด้านใน 4 มุม เพื่อใส่ตะขอห่วงสำหรับยึดสลิง จริง ๆ ถ้าไม่มีสลิงก็สามารถใช้เชือกชนิดอื่น ๆ ได้ครับ หลังจากนั้นก็ติดสลิงให้ครบทั้งสี่มุมแล้วลองยกขึ้นแขวนกับแผ่นไม้ที่จะติดกับเพดานเพื่อดูความสมดุล เสร็จแล้วลงมือเดินวงจรไฟฟ้า และใส่หลอดไฟเข้ากับตัวกล่อง เสร็จจากงานส่วนนี้แล้วก็เตรียมยกขึ้นแขวนที่เพดานกันได้เลยครับ

ขั้นตอนสุดท้าย ติดแผ่นไม้ที่ยึดเป็นฐานติดตั้งโคมไฟเข้ากับเพดาน จากนั้นแขวนโคมไฟเข้ากับตะขอแขวนที่ยึดอยู่ตรงกลางแผ่นไม้ งานนี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมสำหรับการใช้งานกันแล้วครับ