บ้านเก่าสมัยสงครามโลก อายุร่วม 100 ปี ในออสเตรเลีย สภาพสุดทรุดโทรม ทั้งเก่า ทั้งชำรุด และไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ แต่กลับประมูลขายไปได้ในราคาสูงลิบถึง 40 ล้าน
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยเรื่องราวชวนอึ้ง เมื่อบ้านเก่า หลังหนึ่งในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ถูกประมูลขายไปในราคาที่สูงถึง 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 40 ล้านบ้าน ซึ่งราคาสูงเช่นนี้ หลายคนก็ต้องคิดว่าเป็นบ้านตกแต่งหรูหราสวยงาม หรือมีเนื้อที่กว้างขวาง หรืออยู่ใจกลางเมืองย่านที่ดินแพง ทว่าไม่ใช่อย่างสิ้นเชิง บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนพื้นที่ 320 ตารางเมตร แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ บ้านหลังนี้มีสภาพเก่ามาก ปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรมมาเป็นเวลานาน ไม่เพียงแต่ภายนอก ภายในยังผุพัง ผนังลอกเป็นคราบ ทั้งเก่าและโทรมมาก
บ้านหลังนี้มี 3 ห้องนอน ซึ่งไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ มีเพียงอุปกรณ์ชั้นวางของและอ่างล้างมือในครัว ซึ่งเป็นแบบที่สร้างติดกับตัวบ้าน และแน่นอนว่า ต่างก็อยู่ในสภาพที่เก่าและชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก ไม่แตกต่างจากตัวบ้านเลย รวม ๆ ทั้งหมดแล้ว เรียกว่า ไม่น่ามองเลยก็ว่าได้
รายงานเผยว่า นับว่าเป็นครั้งแรกที่บ้านหลังนี้ถูกเปลี่ยนเจ้าของ ภายหลังจากถูกขายไปครั้งแรกตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เมื่อปี พ.ศ. 2458 ในราคาแค่ประมาณ 13,000 บาท ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน รวมอายุบ้านมากกว่า 100 ปี และไม่น่าเชื่อว่าราคาจะสูงมากเช่นนี้
โดยการประมูลขายบ้านหลังนี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การประมูลกินเวลานานถึง 40 นาที และมีการเสนอราคามากถึง 100 ครั้ง จนในที่สุด เจนนี และฟิล โทนธ์แอท สามารถประมูลบ้านหลังนี้ไปได้ โดยภายหลังทั้งสองได้เผยว่า "พวกเราเคยทำงานรีโนเวทมาก่อน แต่มันก็ไม่เลวร้ายเท่านี้ พวกเราไม่แน่ใจว่า ครั้งนี้เราจะต้องรีโนเวท หรือรื้อสร้างใหม่เลย และที่เห็นได้ชัดเลยตอนนี้คือ มันอาศัยอยู่ไม่ได้"
สำหรับบ้านหลังนี้ ตั้งอยู่บนถนนมาร์ริควิลล์ แถบชานเมืองในย่านอินเนอร์ เวสต์ ของนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย ซึ่งราคาโดยเฉลี่ยของบ้านปกติที่อยู่ในย่านดังกล่าวนี้ อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 1.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 49 ล้านบาท)
ภาพจาก : realestate.com.au