การปวดปัสสาวะของคนปกติ จะปวดก็ต่อเมื่อในกระเพาะปัสสาวะนั้นมีปัสสาวะเต็มแล้วหรือมากเกินพิกัดแล้วต้องได้รับการระบายเป็นของเสียออกมา สำหรับคนที่ดื่มน้ำเยอะ ช่วงที่ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ก็ทำให้ปัสสาวะบ่อยได้เช่นเดียวกัน แต่ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ต้องหาความจริงก็คือในช่วงฤดูหนาว เคยสังเกตร่างกายตัวเองหรือไม่ว่าทำไมในช่วงฤดูหนาวนั้นถึงต้องปัสสาวะบ่อยนัก
ไม่ใช่แค่เพียงฤดูหนาวเท่านั้น แต่ในช่วงฤดูฝนบางครั้งก็เกิดอาการแบบนี้ได้เช่นเดียวกัน อย่างฤดูฝนที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกไปไหน ฝนตกพรำๆ อากาศเย็น ทำให้เรารู้สึกว่าเรานั้นปวดปัสสาวะกันบ่อยมากขึ้น วันนี้เรามีคำตอบมาให้กับคำถามที่หลายท่านนั้นยังสงสัยกัน…
มาพูดถึงเรื่องการปัสสาวะแบบปกติ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายจะต้องขับของเสียออกมาจากทางปัสสาวะจะเกิดอาการปวดเล็กน้อยเพื่อเป็นสัญญาณเตือน คนเราจะรู้สึกปวดปัสสาวะก็ต่อเมื่อกระเพาปัสสาวะมีน้ำอยู่ภายในถ้ามีน้ำสะสมอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งต้องทำการขับออกมาก็จะเกิดอาการปวดปัสสาวะในทันที เมื่อรู้สึกว่าปวดกระเพาะปัสสาวะก็จะทำการบีบตัวและหดตัวเพื่อที่จะขับปัสสาวะออกมา ซึ่งสำหรับท่านที่ดื่มน้ำเยอะ ดื่มน้ำบ่อยๆ ก็จะทำให้ปัสสาวะบ่อยมากขึ้น แต่การปัสสาวะนั้นมีประโยชน์เพราะว่าจะช่วยล้างสิ่งสกปรกและเอาของเสียออกจากร่างกายบ้าง ทำได้ด้วยการดื่มน้ำเยอะๆ
ส่วนคำถามที่มักจะถามกันในช่วงหน้าร้อนหรือว่าหน้าฝน คำตอบก็คือ ร่างกายของคนเรา ปกติแล้วจะต้องขับของเสียออกจากร่างกายจากหลายๆ ทางด้วยกัน ทั้งทางปัสสาวะ อุจจาระ และเหงื่อ เมื่อเราได้อยู่ในที่ที่มีอากาศเย็น หรือในที่ที่มีอากาศชื้นๆ เราจะรู้สึกว่าปวดปัสสาวะบ่อยเพราะร่างกายไม่ได้ทำการขับเหงื่อออกมาเลย ไม่ได้ทำการขับของเสียออกมาจากผิวหนัง ซึ่งบางครั้งเราเองก็มองไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกัน ร่างกายจึงจำเป็นจะต้องขับของเสียออกมาจากทางเดียวนั่นก็คือทางปัสสาวะนั่นเอง
ช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่อากาศภายนอกนั้นเย็นมาก หรือในบางที่ก็มีอากาศที่หนาวจัด น้ำที่เราดื่มเข้าไปมากๆ ไม่ได้ถูกขับออกมาด้วยเหงื่อเพราะว่าอากาศเย็น ก็เลยจะต้องขับออกมาทางปัสสาวะแทนก็เลยทำให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ยิ่งในช่วงที่อากาศแห้งในหน้าหนาวทำให้เราดื่มน้ำเยอะมากขึ้น เพื่อป้องกันผิวแห้ง ปากแห้ง ก็จะทำให้เรานั้นปัสสาวะบ่อยขึ้นไปอีก ไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด เป็นเพียงกลไกทางร่างกายที่เป็นไปตามธรรมชาติเท่านั้น นอกจากว่าจะมีอาการเจ็บปวดอย่างอื่นในขณะที่ปัสสาวะ จึงจะเรียกว่าผิดปกติได้