อันดับแรกให้ดูเรื่องแสง เน้นการใช้แสงธรรมชาติ และควรถ่ายในเวลากลางวัน โดยหามุมที่แสงลอดเข้ามา เพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศและความรู้สึกสบายๆ ชิลๆ ให้กับบ้าน และถ้ามีโคมไฟ ไฟเพดาน ก็อย่าลืมเปิดด้วย เพราะจะช่วยให้บ้านดูมีชีวิต อบอุ่นและน่าอยู่ขึ้น
ถ้าอยากให้ภาพการตกแต่งภายในบ้าน ดูนุ่มนวลให้เลือกช่วงเวลาที่แสงภายในกับภายนอกไม่ต่างกันมาก เช่น หลังพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าในวันที่อากาศแจ่มใส หรือช่วงเย็นๆ เพราะถ้าถ่ายช่วงกลางวันเวลาแดดจ้าจะทำให้เกิดเงาและแสงสะท้อนได้
ส่วนในเวลาที่แดดจัดๆ อาจจะเลือกถ่ายตัวอาคารภายนอก ที่เน้นเส้นสายเท่ๆ ของตัวสถาปัตยกรรม ให้มีแสงเงาแข็งๆ พาดผ่าน ก็ทำให้ภาพได้มุมมองที่แปลกตา ทำให้ภาพมีความน่าสนใจมากขึ้น
หากเป็นเรื่องยากที่จะจัดบ้านให้เรียบร้อยทุกมุม ก็จัดเป็นบางมุมเพื่อไม่ให้เส้นสายรกๆ มารบกวนองค์ประกอบของภาพ และในบางครั้งเราอาจจะต้องจัดมุมนั้นๆ ของบ้านขึ้นมาใหม่ อย่างการลองหยิบจับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นมาแทนที่ หรือเสริมด้วยพร๊อบเก๋ๆ อย่างการหาดอกไม้มาใส่แจกัน วางหนังสือเท่ๆ สัก 2-3 เล่ม ก็ช่วยให้มุมนั้นดูดีขึ้นมาได้ และอย่าลืมจัดผ้าม่าน หรือโต๊ะ-เก้าอี้ให้เป็นระเบียบด้วยนะ ส่วนในห้องนอน ก็อย่าลืมจัดเตียงให้สะอาดเรียบร้อย
ถ่ายเน้นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดชึ้นหนึ่งให้เป็นจุดโฟกัสของภาพ จะได้ดูไม่รก และเรียบร้อยสะอาดตา หาจุดนำสายตาโดยใช้เฟอร์นิเจอร์หรือจุดใดจุดหนึ่งของบ้าน เพื่อเชื่อมต่อไปยังอีกจุด อาจเป็นมุมห้อง พื้น ผนัง หรือมุมโต๊ะ ระนาบของเหลี่ยมมุม เป็นเส้นนำสายตาไปยังจุดโฟกัสของภาพ จะทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น
บ้านที่สวยน่าอยู่จะต้องดูมีชีวิตชีวา ถ่ายให้ดูสนุก มี Lifestyle มีความเคลื่อนไหวในภาพนั้นไม่ยากเลย ลองให้คน หรือน้องหมา น้องแมว ให้เข้ามาเป็นแบบอยู่ในภาพด้วย จะถ่ายแบบเผลอๆ หรือเซ็ทให้มีเรื่องเล่า อย่างนั่งเล่นบนโซฟา ทำอาหารในห้องครัว วิ่งเล่นในสวน ก็เข้าท่า