ปีใหม่ มีวันหยุดยาว ๆ หนุ่ม ๆ สาว ๆ คงวางแผนออกเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามจังหวัดต่าง ๆ หรือไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ก็มีอีกหลายคนและหลายครอบครัวที่ยังไม่รู้ว่า "ปีใหม่เที่ยวไหนดี" เพราะในประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลากหลาย จะไปสัมผัสอากาศหนาว ๆ ปีนเขา ขึ้นดอย ลงใต้เล่นน้ำทะเลสวย ๆ ใส ๆ หรือจะไปดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์วันวานของอดีตกาลไว้ได้อย่างดีเยี่ยมก็มีเยอะ ดังนั้นกระปุกดอทคอมเลยจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวปีใหม่ สำหรับคนที่ยังมีคำถามในใจว่า...ปีใหม่เที่ยวไหนดี นั่นแน่ ! อยากรู้แล้วล่ะสิว่าจะมีที่ไหนบ้าง ตามเราไปเที่ยวกันเลยจ้า
ไหว้พระ 9 วัด
เริ่มกันที่การไปไหว้พระ 9 วัด เพื่อเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นปีใหม่อย่างมีความสุขสงบทางใจ ตามคติความเชื่อของไทย ซึ่งเราได้หยิบเอาเส้นทางไหว้พระ 9 วัด จาก 2 จังหวัด มาแนะนำกัน ได้แก่
++ ไหว้พระ 9 วัด ขอพร 9 พระอารามหลวง
1. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
คติ : เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี
เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่ ดอกไม้ พวงมาลัย
2. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
คติ : มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง
เครื่องสักการะสำหรับพระประธานในโบสถ์ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก
เครื่องสักการะสำหรับรูปเคารพสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท : ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก
3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
คติ : ร่มเย็นเป็นสุข
เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 11 แผ่น
4. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
คติ : เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย
เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกไม้
5. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
คติ : ชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ
เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว
6. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
คติ : วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่คนทั่วไป
เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม
7. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
คติ : ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน
เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่
8. วัดบวรนิเวศวิหาร
คติ : พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต
เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก
9. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
คติ : เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล
เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก
ไหว้พระ 9 วัด พระนครศรีอยุธยา
เริ่มต้นที่ "วัดพนัญเชิงวรวิหาร" ไหว้หลวงพ่อโตหรือซำปอกง เพื่อความสำเร็จโดยเฉพาะในเรื่องของการทำมาค้าขาย ต่อที่ "วัดใหญ่ชัยมงคล" เพื่อสิริมงคลแก่ชีวิตและมีชัยเหนือทุกสิ่ง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง หลังจากนั้นไปไหว้พระกันที่ "วัดธรรมิกราช" ชื่นชมความอลังการของวิหารหลวงที่เหลือเพียงซากเสาอิฐ และวัดที่ 4 "วัดหน้าพระเมรุ" กราบพระพุทธนิมิตรพิชิตมารเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตราธิราชที่สมบูรณ์ งดงามมากที่สุดในปัจจุบัน
จากนั้นไป "วัดกษัตราธิราชวรวิหาร" มาไหว้พระพุทธกษัตราธิราช ซึ่งเชื่อกันว่าจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ก่อนจะไป "วัดธรรมาราม" ซึ่งเมื่อได้มาไหว้จะมีมงคลด้าน ศีล สมาธิ และปัญญาในการดำเนินชีวิต และ "วัดท่าการ้อง" มีหลวงพ่อยิ้มที่โด่งดัง มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และปรากฏในเรื่องขุนช้างขุนแผน
สักการะหลวงพ่อดำที่ "วัดพุทไธศวรรย์" อยากสมหวังโดยเฉพาะเรื่องของการสอบเข้าทหาร-ตำรวจ ให้มาไหว้วัดนี้ และหากมีลูกหลานเจ็บป่วยให้นำไปถวายเป็นลูกของพระเจ้าอู่ทอง เมื่อหายไข้แล้ว ให้ทำการแก้บนด้วยการบวชถวายเมื่ออายุครบ ปิดท้ายที่ "วัดมงคลบพิตร" สักการะหลวงพ่อมงคลบพิตร เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ใกล้ ๆ กัน คือ อุทยานประวัติศาสตร์วัดพระศรีสรรเพชญ์ และดื่มด่ำกรุงเก่ายามเย็น
ดอยอ่างขาง
แม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ปลายสุดของจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านการเดินทางขึ้นเขาลงเขาอยู่หลายชั่วโมง แต่อ่างขางก็ยังคงเป็นที่เที่ยวยอดนิยม โดยเฉพาะที่สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง ที่นี่มีพืช ผัก ดอกไม้ เมืองหนาวละลานตาให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้ที่นี่สามารถชมทะเลหมอกได้ง่าย และเหมาะกับการปลูกพืชเมืองหนาว อีกทั้งใกล้ ๆ กับสถานีเกษตรโครงการหลวงดอยอ่างขาง ยังมี "บ้านคุ้ม" หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีชาวบ้านหลากเชื้อชาติอาศัยอยู่ ทั้งไทยใหญ่ พม่า และจีนฮ่อ ภายในหมู่บ้านมีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก และที่พักบริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย
ปลายฤดูหนาวที่ดอยอ่างขางมีวิวป่าเปลี่ยนสีที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยให้ชม รวมถึงดอกซากุระเมืองไทยหรือดอกนางพญาเสือโคร่งที่จะบานตลอดเส้นทางขึ้นและลงดอยอ่างขางก็มีให้ชมอย่างเพลิดเพลิน รวมถึงมีไร่สตรอว์เบอร์รีที่มีให้ชมอย่างใกล้ชิด เรียกว่าเดินเก็บผลจากต้นสด ๆ กันได้เลย สำหรับคนที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติ และชอบการดูนกเป็นชีวิตจิตใจ ที่ดอยอ่างขางเองก็มีเส้นทางดูนกและเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบริเวณด้านหลังหน่วยจัดการต้นน้ำแม่เผอะ สถานีเกษตรดอยอ่างขาง ตลอดทางเดินผ่านป่าเล็ก ๆ และไร่เกษตรของชาวบ้านก็มีนกหลายชนิดให้ชม
ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย แต่กลับขึ้นชื่อว่าเป็นดอยที่เที่ยวง่ายและสะดวกสบายที่สุด เพราะทุกสถานที่เที่ยวถูกเชื่อมต่อด้วยถนนลาดยางอย่างดี มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมชมมากมาย ทั้งน้ำตกแม่ยะ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี, น้ำตกแม่กลาง เป็นอีกหนึ่งน้ำตกสวยที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งปิกนิกพักผ่อน, น้ำตกวชิรธาร น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีน้ำตลอดทั้งปี, น้ำตกสิริธาร ตั้งหลบอยู่ในหุบเขาและป่าไม้ดงดิบ มีระเบียงไม้ร่มรื่นสามารถนั่งเล่นและชมวิวน้ำตกได้จากระยะไกล ๆ
สถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ ตกแต่งร่มรื่นสวยงาม มีโรงปลูกดอกไม้ผลเมืองหนาว และยังมีร้านอาหารและบ้านพักให้บริการ, น้ำตกสิริภูมิ เราจะเห็นสายน้ำตกสีขาวสองเส้นสวยงามมาก, ตลาดม้ง ชาวบ้านจะนำผักสด ๆ ผลไม้แช่อิ่มและงานฝีมือมาวางขาย, พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เหมาะสำหรับชมสวนดอกไม้ประดับ ชมวิวสวย และยังเป็นจุดชมวิวยามพระอาทิตย์อัสดงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของดอยอินทนนท์ และเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามเช่นกัน
สำหรับเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติบนดอยอินทนนท์นั้น มีเส้นทางเดินระยะสั้นถึงสั้นมาก เดินสะดวกสบายให้สามารถชมธรรมชาติได้ทุกวัย และเส้นทางเดินระยะไกลที่เหมาะสำหรับนักผจญภัยให้เลือกตามสไตล์ กิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางเดินป่าระยะสั้นประมาณ 3 กิโลเมตร มีไม้ป่านานาพรรณ ถ้าโชคดีอาจได้ชมกวางผาที่ออกมาหากินตอนเช้าด้วย เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง อยู่บนจุดสูงสุดในประเทศไทย มีความสูง 2,560 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สามารถขับรถขึ้นถึงได้เลย จุดเด่นอยู่ที่ต้นไม้แต่ละต้นถูกปกคลุมด้วยมอสส์ เฟิร์น
ดอยตุง
ดอยตุง เป็นยอดเขาสูง นับเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขานางนอน ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง มีผืนป่าธรรมชาติประมาณ 93,515 ไร่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,630 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในบรรดาถนนขึ้นสู่ดอยต่าง ๆ ในภาคเหนือ ดอยตุงมีถนนที่ดีที่สุดก็ว่าได้ คุณอาจเลือกพักในตัวเมืองเชียงรายแล้วขับรถไปเที่ยวดอยตุงแบบเช้าขึ้น บ่ายลงก็ได้ ที่เที่ยวเด่นบนดอยตุงแบ่งออกเป็น 3 โซน คือพระตำหนักดอยตุง พระธาตุดอยตุง และสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ซึ่งอยู่บนเขา 3 ยอดก็ว่าได้
มาดอยตุงแล้วคอกาแฟไม่ควรพลาดไปที่คาเฟ่ดอยตุง ชิมกาแฟพันธุ์อาราบิก้า พืชเศรษฐกิจที่ถูกปลูกขึ้นมาทดแทนฝิ่นในอดีต โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ได้คัดเลือกพันธุ์กาแฟอาราบิก้าชั้นดี ปลูกบนพื้นที่สูงกว่าพันเมตรจากระดับน้ำทะเล และปลูกอยู่ใต้ป่า กาแฟจึงมีกลิ่นหอม คุณภาพสูง อีกทั้งการเก็บและคัดเมล็ดด้วยมือ และคั่วอย่างพิถีพิถัน ทำให้กาแฟทุกแก้วในร้านคาเฟ่ ดอยตุง มีรสชาติดีเยี่ยม และนอกจากกาแฟที่เด่นดังแล้ว ดอยตุงยังมีร้านดอยตุงไลฟ์สไตล์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโครงการพัฒนาดอยตุงฯ เป็นผลงานของชาวเขาและราษฎรพื้นที่ราบ ที่ร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย เช่น ผ้าทอมือ เสื้อผ้า ของแต่งบ้าน เครื่องเคลือบดินเผา ผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา และของใช้ส่วนตัว
ดอยเสมอดาว
ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 สายนาน้อย-ปางไฮ เป็นจุดชมทิวทัศน์บนยอดหน้าผาสูง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา สำหรับพักผ่อนและดูดาว ดูพระอาทิตย์ตกและยังเป็นจุดชมทะเลหมอกอีกด้วย หากจะเดินขึ้นไปบนผาสิงห์ (เป็นหน้าผาที่มีรูปร่างคล้ายหัวสิงห์) ระยะทาง 2 กิโลเมตร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยาน
ดอยต่องปะแล
เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อยู่ห่างจากบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ประมาณ 1,200 เมตร เมื่อได้ขึ้นไปถึงจะมองเห็นน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ชายแดนไทย-เมียนมา หมู่บ้านอีต่อง ที่สำคัญเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็นที่สวยงามและได้บรรยากาศที่สุด
ช่องเย็น (กม.93)
ช่องเย็น (กม.93) เป็นจุดสูงสุดของถนนคลองลาน-อุ้มผาง และเป็นจุดสุดท้ายที่ยานพาหนะเข้าถึง มีความสูงประมาณ 1,340 เมตร จากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียล เนื่องจากบริเวณนี้เป็นช่องเขาที่มีสายลมพัดผ่านตลอดเวลา จึงถูกขนานนามว่า "ช่องเย็น" ตามสภาพภูมิอากาศของพื้นที่แห่งนี้ เนื่องจากช่องเย็นมีสภาพอากาศที่เย็นและชื้น จึงพบพรรณไม้ที่ชอบความชุ่มชื้นบริเวณนี้ ได้แก่ กล้วยไม้ เฟิร์น มหัสดำ (Treefern) นอกจากนี้ช่องเย็นยังเป็นถิ่นอาศัยของนกหลากหลายชนิด จึงเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ดอยแม่สลอง
ดอยแม่สลอง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรี เดิมชื่อบ้านแม่สลองนอก เป็นชุมชนผู้อพยพจากกองพล 93 จากสหภาพพม่าเข้ามาในเขตไทย จำนวนสองกองพันคือ กองพันที่ 3 เข้ามาอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และกองพันที่ 5 อยู่ที่บ้านแม่สลองนอก ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุด สีชมพูอมขาวจะบานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง เป็นพันธุ์ไม้ที่หาชมได้ยากในเมืองไทย เพราะเจริญเติบโตอยู่แต่เฉพาะในภูมิอากาศหนาวจัดเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นแหล่งชมไร่ชาและศึกษาวิธีการผลิตชา รวมถึงลิ้มลองรสชาติชารสเยี่ยมด้วย
ดอยขุนช่างเคี่ยน
ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ทางทิศเหนือของยอดดอยปุย ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ประมาณ 8 กิโลเมตร และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,200-1,300 เมตร เริ่มเปิดพื้นที่ดำเนินงานเมื่อปี พ.ศ. 2516 เป็นหนึ่งในสถานีเกษตรฯ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่วิจัยเกี่ยวกับไม้ผลเมืองหนาว และเมล็ดพันธุ์กาแฟ เพื่อศึกษาความสามารถในการมีชีวิตรอดหลังจากปลูกใหม่
นอกจากนี้ขุนช่างเคี่ยนยังมีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามของดอกซากุระดอย หรือดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่จะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งดอยในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม (ในละปีต้นนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกไม่พร้อมกัน ควรจะสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ให้แน่นอนก่อนเดินทาง) จัดได้ว่าเป็นแหล่งชมซากุระเมืองไทย ที่ใกล้กับตัวเมืองเชียงใหม่
ดอยหลวงเชียงดาว
ดอยหลวงเชียงดาว อยู่ในเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว เป็นภูเขาหินปูนที่สูงเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศไทย มีความสูง 2,225 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ภูเขาหินปูนของดอยหลวงเชียงดาวมีอายุระหว่าง 230-250 ล้านปี เนื้อหินเป็นสีเทาขาว เกิดจากการทับถมของตะกอนทะเลซากสัตว์ที่มีหินปูนเป็นโครงสร้าง คาดคะเนได้ว่าในอดีตดอยหลวงเชียงดาวเคยเป็นทะเลน้ำตื้นมาก่อน ถ้ามองจากภาพทางอากาศจะเห็นแนวยอดของดอยหลวงเชียงดาวเป็นสันคมแนวยาวต่อเนื่องเป็นรูปเกือกม้าคล้ายวงล้อม ตรงกลางเป็นหุบเขาแคบ ๆ ตามสันดอยจะเป็นหินแหลมคม มีรอยแยก และรอยแตกเป็นตะปุ่มตะป่ำ เกิดจากการทำปฏิกิริยาของน้ำฝนกับหินปูน บางแห่งเป็นหลุมหุบที่เรียกว่า อ่างสลุง
ยอดดอยเชียงดาวและสันกิ่วลมเป็น 2 จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามของดอยหลวงเชียงดาว โดยคุณอาจจัดโปรแกรมไปชมทะเลหมอกยามเช้าที่ยอดดอยเชียงดาวก่อน แล้วเช้าวันที่สามค่อยเดินไปชมทะเลหมอกที่สันกิ่วลมก็ได้ จะได้ชมทะเลหมอกในบรรยากาศที่ต่างกัน ยอดดอยเชียงดาวใช้เวลาเดินเท้าจาก อ่างสลุง จุดตั้งแคมป์ไปถึงยอดดอยประมาณ 30-45 นาที นับเป็นจุดที่เหมาะแก่การชมทะเลหมอกและแสงแรกยามเช้าที่สุด เพราะบนยอดเขาสามารถชมวิวได้กว้างไกลในมุม 360 องศา โดยด้านตะวันออกเป็นสันกิ่วลมเหนือ ทิศตะวันตกเห็นดอยสามพี่น้อง ทิศใต้เป็นสันกิ่วลมใต้ ส่วนทิศเหนือจะเห็นดอยพีระมิดและยอดเขาเล็ก ๆ เรียงสลับซับซ้อน บริเวณยอดดอยยังมีเส้นทางให้เดินชมพรรณไม้
ดอยหลวงเชียงดาวไม่เพียงมีความงามของทุ่งหญ้าเปลี่ยนสีสัน ดอกไม้ป่านานาชนิด นกหายากให้คุณเฝ้าชมตลอดเส้นทาง สังคมพืชกึ่งอัลไพน์และวิวทะเลหมอกแสนสวยงาม ให้นักเดินป่าได้ดื่มด่ำความงามกันแบบใกล้ชิดเท่านั้น ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมทั้งในพื้นที่อุทยาน และพื้นที่ใกล้เคียงให้คุณได้ท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลิน อาทิ ถ้ำเชียงดาว ภายในมีเส้นทางให้เดินชม 3 เส้นทาง ได้แก้ เส้นทางถ้ำพระนอน เส้นทางถ้ำแก้ว และเส้นทางสุดท้ายคือเส้นถ้ำมืดและถ้ำม้า ทั้งสามถ้ำมีหินงอก หินย้อยสวยงามรูปร่างแปลกตา สถานที่ที่น่าสนใจอื่น ๆ คือ น้ำตกศรีสังวาลย์ และบ่อน้ำร้อนโป่งอ่าง ทั้งนี้การเข้าไปใช้พื้นที่ต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนการเดินทาง สอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 0 2561 2947
พิชิตยอดดอยภูแว
ดอยภูแว เป็นยอดดอยที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,837 เมตร อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน มีลักษณะโดดเด่นเป็นทุ่งหญ้าบนดอย อีกทั้งยังมีลานหินและหน้าผาสูงชันอีกด้วย และมีพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นและพันธุ์ไม้หายาก เช่น ค้อ กุหลาบพันปี ฯลฯ ในช่วงฤดูหนาวนั้นจะมีความสวยงามมาก การเดินทางโดยรถยนต์ จากที่ทำการอุทยาน ไปถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 9 (บ้านด่าน) ระยะทางประมาณ 63 กม. และมีลูกหาบไว้บริการ
ดอยฟ้าห่มปก
ดอยฟ้าห่มปก เป็นดอยที่สูงอันดับ 2 ของประเทศไทย ด้วยความสูงประมาณ 2,285 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง บนยอดดอยสูงสุดเป็นทุ่งโล่งอันเกิดจากสภาพธรณีวิทยาที่มีชั้นดินตื้น ชั้นหินเป็นหินแกรนิต ประกอบกับอากาศมีลมกระโชกแรงตลอดทั้งปี จากยอดดอยจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม เช่น ทะเลหมอก และถนนบนสันเขา ขนานกับชายแดนไทย-พม่า ซึ่งถือเป็นถนนที่สร้างขึ้นเพื่อความมั่นคงระหว่างประเทศ ส่วนสภาพป่าเป็นป่าต้นน้ำ ป่าดิบเขา ซึ่งมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมดุลและหลากหลายทางชีวภาพ ดังเช่นจะพบพันธุ์พืช สัตว์ป่าหายาก และน่าสนใจนานาชนิด อาทิ เทียนหาง บัวทอง ผีเสื้อไกเซอร์อิมพีเรียล ผีเสื้อมรกตผ้าห่มปก ผีเสื้อหางติ่งแววเลือน ผีเสื้อหางดาบตาลไหม้ นกปรอดหัวโขนก้นเหลือง และนกปีกแพรสีม่วง เป็นต้น
อีกทั้งในฤดูหนาวมีนกอพยพมาอาศัย เช่น นกเดินดงคอแดง นกเดินดงดำปีกเทา นกเดินดงสีน้ำตาลแดง ฯลฯ เส้นทางขึ้นดอยผ้าห่มปกมี 3 เส้นทาง ได้แก่ ทางกิ่วลม ทางปางมงคล และทางหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สาว ผู้สนใจต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
ภูทับเบิก
ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ตอนเช้ามีกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ ปัจจุบันภูทับเบิกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกซากุระหรือนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา
นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสักที่อยู่เบื้องล่าง เปรียบได้กับ "ดาวบนดิน" จากสภาพดังกล่าว ทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติบริสุทธิ์ ภายใต้คำกล่าวที่ว่า "นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน" อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีขนาดใหญ่ ซึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวภูทับเบิกสวยงามมาก เนื่องจากจะมีแปลงปลูกกะหล่ำปลีกว้างไกลสุดสายตา ซึ่งชาวไทยภูเขาเผ่าม้งปลูก และในฤดูหนาวภูทับเบิกจะมีสีสันสวยงามด้วยดอกนางพญาเสือโคร่งหรือดอกซากุระเมืองไทย ซึ่งออกดอกบานสะพรั่งบนเนินเขาต่าง ๆ
ภูกระดึง
ภูกระดึง ภูเขาแห่งเสียงระฆังแห่งนี้ ดังก้องในเรื่องของความงดงาม เพียงแค่เราได้สาวเท้าเพื่อเดินทดสอบกำลังใจกับเส้นทางการเดินเขาภูกระดึงที่ค่อนข้างสูงชัน ก็ทำให้เราได้พิสูจน์และท้าทายความสามารถของตัวเอง และยิ่งได้พิชิตยอดภูได้สำเร็จ ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด เพราะรางวัลแห่งความสำเร็จที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า คือ ภาพอันงดงามของขุนเขาสูงตระหง่านท่ามกลางทะเลหมอก ป่าไม้อันอุดมและชุ่มฉ่ำ ช่วยให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
และยิ่งได้เดินเที่ยวไปตามเส้นทางแห่งสายน้ำตกลัดเลาะไปตามป่าดงดิบ นอกจากจะได้พบกับน้ำตกสวย ๆ แล้ว ยังได้สัมผัสกับความงดงามของต้นเมเปิลบนภูกระดึงที่ต่างพากันผลัดใบในป่าปิดด้านเหนือ ที่เปลี่ยนเฉดสีจากเขียวกลายเป็นสีแดงท่ามกลางลมหนาว สวยงามน่าประทับใจ และเส้นทางนี้ยังมีนกสวย ๆ บินอวดโฉมให้ดูเป็นระยะ ๆ และให้รีบเข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะพรุ่งนี้มีนัดสำคัญแต่เช้าตรู่ รออยู่ที่ผาหล่มสักเพื่อไปรอรับพระอาทิตย์ยามเช้า ได้นั่งเอิบอิ่มกับแสงแห่งอรุณรุ่ง ถ่ายภาพบนชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา โดยมีสนต้นหนึ่งแผ่กิ่งก้านเป็นฉากหลัง ถือเป็นรางวัลพิเศษอีกชิ้น เอาเก็บไว้เป็นความทรงจำที่น่าประทับใจที่ภูกระดึงอย่างไม่รู้ลืม
ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดของดอยผาหม่น ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,700 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีลักษณะเป็นหน้าผาที่มีแหลมยื่นเข้าไปในอากาศ คล้ายกับว่าชี้ขึ้นไปบนฟ้า จึงถูกเรียกว่า ภูชี้ฟ้า ซึ่งหากมองจากแผนที่จะพบว่าภูชี้ฟ้าตั้งอยู่ปลายสุดทางทิศตะวันออกของจังหวัดเชียงราย เปรียบเสมือนเป็นชายแดนของประเทศที่กั้นระหว่างไทยและลาว บนยอดภูชี้ฟ้ามีทุ่งหญ้ากว้างประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ด้านหน้าเป็นหน้าผาสูงมองเห็นหมู่บ้านเชียงตองในประเทศลาว
มีจุดชมวิวยอดนิยมอยู่ 2 จุด คือ บริเวณยอดภูและบริเวณลานก่อนถึงยอด สามารถหามุมชมวิวและถ่ายภาพได้ตามใจชอบ โดยเฉพาะยามที่ดวงอาทิตย์ทอแสงรุ่งอรุณที่ขอบฟ้า ตัดกับทะเลหมอกสีขาวงดงามเบื้องล่างนั้นงดงามเกินบรรยาย จากนั้นอดใจรออีกสักนิด เพราะความงามของภูชี้ฟ้ายังไม่เลือนหาย ถึงแม้พระอาทิตย์จะขึ้นโด่งจนสายแล้วทะเลหมอกด้านล่างก็ยังหลงเหลือ พอให้มองเห็นวิวป่าเขาสลับซับซ้อนเป็นคลื่นสวยงามนับเป็นความงามอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่ควรพลาดรอชม
ภูเรือ
ยอดภูเรือ เป็นจุดที่สูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่สูงประมาณ 1,365 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นหน้าผาสูงชัน พื้นที่โดยรอบปกคลุมด้วยป่าสนเขา ทั้งสนสองใบและสนสามใบ สลับกับลานหินธรรมชาติ ต้องเดินขึ้นเขาจากผาโหล่นน้อยมาประมาณ 700 เมตร จากจุดนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้รอบด้านกระทั่งเห็นแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นพรมแดนไทย-ลาว
บนยอดเรือยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาวาบรรพต ซึ่งชาวภูเรืออัญเชิญมาจากอยุธยาด้วย จากยอดภูเรือมีเส้นทางเดินป่าผ่านบริเวณที่มีดอกไม้เล็ก ๆ เช่น กระดุมเงิน ดาวเรืองภู เปราะภู ซึ่งออกดอกสวยงามในช่วงหน้าหนาว ที่ป่าสนบริเวณ ทุ่งกวางตาย มีดอกกระเจียวบานในช่วงต้นฤดูฝนราวเดือนพฤษภาคม นอกจากนั้นยังมีลานหินพานขันหมาก เป็นลานหินแตกเป็นรอยตื้น ๆ ที่จะพบดอกไม้ที่ชอบขึ้นตามลานหิน เช่น เอื้องม้าวิ่ง อยู่ทั่วไป เส้นทางเดินป่าจะวกกลับไปลานกางเต็นท์ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
ภูหินร่องกล้า
ภูหินร่องกล้า เป็นแหล่งกำเนิดของประวัติศาสตร์การสู้รบอันยาวนาน เป็นวีรกรรมของนักรบไทย ความขัดแย้งของลัทธิและแนวความคิดที่นำไปสู่ความสูญเสียเลือด ชีวิต และน้ำตา ภาพประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตจะถูกบันทึกเก็บรักษาไว้ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงผลของการใช้กำลังเข้าประหัตประหาร ทำให้เกิดความสูญเสียที่ประเมินค่ามิได้ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองความแตกแยก ความสามัคคีของคนในชาติ ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย
ณ ที่แห่งนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ลานหินแตก เป็นหินที่มีรอยแตกเป็นแนวเป็นร่องเหมือนแผ่นดินแยก รอยแตกนี้บางรอยก็มีขนาดแคบพอให้รากต้นหญ้าชอนไชไปได้เท่านั้น บางรอยกว้างพอคนก้าวข้ามได้ และบางรอยกว้างมากจนไม่สามารถกระโดดข้ามได้ ความลึกของร่องหินแตกเหล่านั้นไม่สามารถจะคะเนได้ ลักษณะเช่นนี้สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการโก่งตัวหรือเคลื่อนตัวของผิวโลกจึงทำให้พื้นหินนั้นแตกเป็นแนว นอกจากนี้ บริเวณหินแตกยังปกคลุมไปด้วยมอสส์ ไลเคน ตะไคร่ เฟิร์น และกล้วยไม้ชนิดต่าง ๆ, ลานหินปุ่ม ตั้งอยู่ริมหน้าผาลักษณะเป็นลานหินผุดขึ้นเป็นปุ่มไล่เลี่ยกัน คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหินทางเคมีและฟิสิกส์ ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นของคนไข้เนื่องจากอยู่บนหน้าผา จึงมีลมพัดเย็นสบายเหมาะแก่การนั่งพักผ่อน
หมู่บ้านมวลชน เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มมวลชนมีอยู่หลายหมู่บ้าน เช่น หมู่บ้านดาวแดง หมู่บ้านดาวชัย แต่ละหมู่บ้านมีบ้านประมาณ 40-50 หลัง เรียงรายอยู่ในป่ารกริมทางที่ตัดมาจากอำเภอหล่มสัก ลักษณะบ้านเป็นบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ไม่ยกพื้น หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม้ บ้านแต่ละหลังจะมีหลุมหลบภัยทางอากาศอยู่ด้วย, บ้านม้งร่องกล้า เป็นหมู่บ้านที่เป็นมวลชนแนวร่วมพรรคคอมมิวนิสต์เก่า เป็นพื้นที่ที่ปลูกพืชผักและผลไม้เมืองหนาว มีประเพณีและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
พิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวการใช้ชีวิต และการสู้รบของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) รวมทั้งจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้และอาวุธต่าง ๆ, โรงพยาบาลอยู่ห่างจากสำนักอำนาจรัฐ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นโรงพยาบาลกลางป่าที่มีอุปกรณ์ในการรักษาคนป่วยเกือบครบถ้วน มีห้องปรุงยา ห้องพักฟื้น และยาชนิดต่าง ๆ เป็นอันมาก ฯลฯ
เขาใหญ่
เขาใหญ่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับล้านคนต่อปี ส่วนใหญ่มักเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งใช้เวลาขับรถราว 3 ชั่วโมง ที่นี่เป็นหนึ่งในพื้นที่ป่าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาใหญ่มีเขตพรรณพืชถึง 4 เขต ซึ่งขยายวงกว้างตั้งแต่ 100 เมตร ไปจนถึงมากกว่า 1,400 เมตร อันประกอบไปด้วย ป่าดิบชื้น, ป่าดงดิบแล้ง, ป่าเบญจพรรณ และป่าดิบเขา ตามพื้นที่ป่าและทุ่งหญ้าเขตร้อนเป็นที่อาศัยของโขลงช้าง และสิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือ นกเงือก ซึ่งมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ ได้แก่ นกกก, นกเงือกกรามช้าง, นกแก๊ก และนกเงือกสีน้ำตาล
เส้นทางเดินป่า 50 สายตามทางเดินของสัตว์ป่าไปยังน้ำตกแสนงดงาม อย่างน้ำตกเหวสุวัต และไปยังทุ่งหญ้าเขตร้อนที่บรรดาช้างเดินเตร็ดเตร่ไปมา ส่วนกวางแคระและเก้ง รวมถึงชะนี, ค่าง, ลิงวอก มักมีผู้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง หอส่องสัตว์อีก 3 แห่ง ยิ่งช่วยให้พบเห็นพวกมันได้ง่ายขึ้นไปอีก ตลอดจนการขึ้นรถส่องสัตว์ในตอนกลางคืน ที่มีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยช่วยฉายไฟไปยังฝูงสัตว์ที่หากินกลางคืนให้อีกด้วย สำหรับผู้ที่ประสงค์จะผจญภัยออกไปไกลกว่านั้น เจ้าหน้าที่อุทยานก็พร้อมที่จะเป็นผู้นำทางให้
จุดชมทิวทัศน์เขาเขียว
จุดชมทิวทัศน์เขาเขียว (ผาเดียวดาย) นับเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามน่าชม มีลักษณะคล้ายผานกเค้าที่ภูกระดึง จะมองเห็นภูเขาร่มขวางอยู่เป็นแนวยาวและทิวทัศน์ที่สวยงามด้านจังหวัดปราจีนบุรี ตอนเช้าตรู่จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเป็นดวงกลมสีแดงเหนือสันเขาร่มที่สวยงาม ซึ่งเส้นทางถึงยอดเขาเขียวมีระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร บริเวณช่วงกิโลเมตรที่ 9 มีเส้นทางลงสู่จุดชมทิวทัศน์ผาเดียวดาย ผ่านป่าดิบเขาที่ชุ่มชื้นและอากาศเย็นตลอดปี ตามต้นไม้และโขดหินมีมอสส์และตะไคร่ขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วไป บริเวณนี้จะพบนกบนที่สูงหลายชนิด เช่น นกปรอดดำ นกเปล้าหางพลั่ว นกแซงแซวหางบ่วงเล็ก เป็นต้น
ปาย
ปาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถหากิจกรรมที่น่าสนใจทำกันได้ทั้งในช่วงกลางวันและยามค่ำคืน กลางวันควรไปเที่ยวดูรอบ ๆ ตัวเมือง แวะถ่ายรูปคู่กับสถานที่ต่าง ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปนมัสการวัดพระธาตุแม่เย็น ไปนอนแช่น้ำแร่จากธรรมชาติที่น้ำพุร้อนท่าปาย และต่อด้วยชมสะพานประวัติศาสตร์ หรือไปชิมขาหมูสุดอร่อยที่หมู่บ้านจีนยูนนาน หรือผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติเมืองเหนือสามารถไปขี่ช้าง นั่งเล่นชมลำน้ำปายบนแพไม้ไผ่ก็สามารถเลือกสนุกได้
ในยามค่ำคืนไฮไลท์กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือ การเดินทางไปถนนคนเดินเมืองปาย ที่นี่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งโหยหาที่จะมาสัมผัสบรรยากาศยามเย็นแสนสบายพร้อมเลือกดูของที่ระลึก เสื้อผ้า เครื่องประดับ ฯลฯ ซึ่งเป็นเหมือนงานศิลปะชิ้นเอกของศิลปินชั้นยอดที่รวมตัวกันอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ อีกทั้งยังมีอาหารอร่อยหลายอย่างให้ได้ลิ้มลอง เช่น ขนมจีนนั่งยองรสชาติอร่อยในบรรยากาศแสนผ่อนคลาย หากอากาศหนาวก็ยังมีข้าวปุกงาร้อน ๆ จากเตาที่มีรสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร หรือดับกระหายด้วยน้ำสมุนไพรใส่กระบอกไม้ไผ่ ฯลฯ
ปางอุ๋ง
โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ตั้งอยู่ที่บ้านรวมไทย เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพงดงามอย่างยิ่ง ได้รับสมญาว่า สวิตเซอร์แลนด์แดนสามหมอก มีทิวสนสองใบ สนสามใบเรียงราย ตลอดแนวอ่างเก็บน้ำอันกว้างใหญ่ และโอบล้อมด้วยขุนเขาที่เขียวชอุ่ม
"อุ๋ง" หมายถึง ที่ลุ่มต่ำคล้ายกระทะใบใหญ่ มีน้ำขังเฉอะแฉะ เดิมบริเวณนี้เป็นสถานที่ทำไร่ฝิ่นของชาวเขา ปัจจุบันปลูกพรรณพืช ดอกไม้เมืองหนาวหลากสีสันโดยรอบ และสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ในด้านอาหารและแพทย์แผนไทย ซึ่งมีความกลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศบนที่สูงและอากาศเย็น ทั้งนี้ทางโครงการมีที่พักบริการ นอกจากนี้ยังมีบ้านพักโฮมสเตย์ในหมู่บ้านปางอุ๋งอีกจำนวนหนึ่ง
น่าน
น่าน ดินแดนในอ้อมกอดของขุนเขาด้านตะวันออกของภาคเหนือ อุดมด้วยธรรมชาติผืนป่า สายน้ำ ทะเลหมอก หล่อหลอมรวมกับวิถีวัฒนธรรมของผู้คนชาวไทยลื้อ ทำให้เสน่ห์ของน่านไม่ได้มีเพียงธรรมชาติอันพิสุทธิ์ แต่ยังมีศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ที่แฝงด้วยแรงศรัทธาในพุทธศาสนา และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งผู้คนที่นี่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตอย่างสงบสุขและเรียบง่าย ส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพิงเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก โดยมีแม่น้ำน่านซึ่งนับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเมืองไหลหลั่งจากเทือกเขาหลวงพระบางและเทือกเขาผีปันน้ำ จนไปรวมกับแม่น้ำปิง วัง ยม เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นเลือดหลักของประเทศ
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายรูปแบบ ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น วัดพระธาตุแช่แห้ง, วัดพระธาตุช้างค้ำ, วัดภูมินทร์, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน, อุทยานแห่งชาติภูคา, อุทยานแห่งชาติศรีน่าน, อุทยานแห่งชาติขุนน่าน, เสาดินนาน้อย (ฮ่อมจ๊อม)-คอกเสือ และบ่อเกลือสินเธาว์, เป็นต้น
เชียงคาน
เชียงคาน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเลย ที่ได้รับความนิยมในการเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศหนาว ๆ ริมแม่น้ำโขง ซึ่งที่นี่ถือเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเชียงคานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจะได้รอยยิ้มจากชาวเชียงคานเป็นการต้อนรับ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมที่ดีงามเช่นนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาได้รับความประทับใจทุกครั้งที่มาเยือน
ซึ่งในย่านชุมชนยังคงมีห้องแถวไม้ บ้านไม้เก่าแก่ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ เป็นเสน่ห์ที่สุดคลาสสิกของเชียงคาน บางแห่งตกแต่งทำเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบสบาย ๆ ใกล้ชิดกับชุมชน กิจกรรมที่น่าสนใจ คือตักบาตรตอนเช้า ชมวัด และล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งโขง ส่วนสินค้าที่ขึ้นชื่อของเชียงคาน คือ ผ้านวม และมะพร้าวแก้ว นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนไม่ควรพลาดที่จะซื้อเป็นของฝาก
แพร่
แพร่ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีตำนานเล่าขานถึงความรุ่งเรืองมายาวนาน รวมทั้งยังเป็นเมืองกำเนิดของเรื่องราวแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ในวรรณคดีเรื่องลิลิตพระลอ ที่หลายคนคุ้นหูกันอย่างดีนอกจากแพร่จะเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์น่าเรียนรู้แล้ว ยังมีแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ งดงามด้วยสายน้ำและผืนป่า ให้ไปเยือนได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย
โดยแพร่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งในด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติ และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เช่น วัดพระธาตุช่อแฮ, วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร, วัดหลวง, วัดพระนอน, วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี, วัดพระธาตุจอมแจ้ง, บ้านวงศ์บุรี, บ้านเสาร้อยต้น, คุ้มเจ้าหลวง, พระธาตุพระลอ, พระธาตุปูแจ, แก่งหลวง, ภูเขาหินปะการัง, น้ำตกตาดหมอก, อุทยานแพะเมืองผี, อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง และอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย เป็นต้น
ปราณบุรี
ปราณบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอ่าวไทยที่เริ่มได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพราะอยู่ห่างจากหัวหินเพียง 30 กิโลเมตร และเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชายทะเลอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียงกัน จึงเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ นอนฟังเสียงทะเล ท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก และเหมาะกับการเล่นกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งพายเรือคายัก ปีนหน้าผา ปั่นจักรยาน ยิ่งไปกว่านั้นปราณบุรียังเป็นศูนย์รวมของโรงแรม รีสอร์ท เก๋ไก๋ มีสไตล์ เป็นเอกลักษณ์ รองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างครบครับ ปราณบุรีจึงเป็นสถานที่อินเทรนด์อีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง
หนองคาย
จังหวัดหนองคาย ได้รับการจัดลำดับจากวารสาร The Us Magazine Modern Maturity ฉบับเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน พ.ศ. 2544 ให้เป็น "บ้านพำนักที่สองของชาวอเมริกันผู้สูงอายุ" ที่น่าอยู่ที่สุดลำดับที่ 7 จาก 15 ลำดับ จากการสำรวจสถานที่ต่าง ๆ 40 แห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขงที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะเป็นประตูสู่เมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นที่ตั้งของสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งแรก ที่เชื่อมโยงประเทศไทย-ลาวเข้าด้วยกัน ทำให้หนองคายในวันนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะเป็นจุดชมบั้งไฟพญานาคในวันออกพรรษาที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
และด้วยความที่เป็นเมืองสงบเงียบ เรียบง่าย เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งศาสนา วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตพื้นบ้าน ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและมีเสน่ห์ ทั้งยังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ หลากหลายไปด้วยอาหารการกินและสินค้านานาชนิด มีโรงแรมที่พักมากมาย และการคมนาคมสะดวกสบาย เมืองริมโขงแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่นักเดินทางไม่ควรพลาดมาเยี่ยมเยือน
นอกจากนี้ หนองคายยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงมากมายและหลากหลายรูปแบบ เช่น วัดโพธิ์ชัย พระธาตุหนองคาย หรือพระธาตุกลางน้ำ วัดหินหมากเป้ง ภูทอก พระธาตุบังพวน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ตลาดท่าเสด็จ ฯลฯ ทั้งนี้ สำหรับคนที่ชอบขับรถเที่ยว ไม่ควรพลาดขับรถชมทิวทัศน์สวยงามบนถนนเลียบแม่น้ำโขง บนเส้นทางหมายเลข 211 ที่ขับเที่ยวต่อไปได้ถึงอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
เที่ยวทะเลสวย ๆ
เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล อยู่ทางใต้ของเกาะอาดัง 2 กิโลเมตร มีชุมชนชาวเลอาศัยอยู่หลายครัวเรือน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการประมง จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มเหมือนแป้ง มีอ่าวที่สวยงามชื่อ "อ่าวพัทยา "และ "หาดชาวเล" มีลักษณะโค้งเว้า ทรายขาวละเอียด ซึ่งทั้งสองหาดนี้สามารถเดินถึงกันได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที และยังมีบริการบ้านพักของเอกชนคอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือไปยังเกาะต่าง ๆ ได้ โดยติดต่อกับทางรีสอร์ทที่มีบริการทัวร์
หมู่เกาะอาดัง ราวี
หมู่เกาะอาดัง ราวี จังหวัดสตูล มีเนื้อที่เกาะประมาณ 30 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายละเอียดสวยงาม และมีแนวปะการังอยู่รอบ ๆ อีกทั้งรอบเกาะยังมีเกาะเล็ก ๆ คือ เกาะหลีเป๊ะ เกาะดง เกาะหินงาม และเกาะยาง เป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูง มีป่าปกคลุมแลดูเขียวครึ้ม ทางด้านหลังมีน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี คำว่า อาดัง มาจากคำเดิมในภาษามลายูว่า อุดัง มีความหมายว่า กุ้ง เพราะบริเวณนี้เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งทะเล
มีสถานที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก เช่น เกาะยาง หรือ เกาะกาต๊ะ เป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ไม่ไกลจากเกาะอาดัง น้ำทะเลใสและมีแหล่งปะการังแข็งที่สวยงาม บนเกาะมีชายหาดที่มีทรายละเอียด, เกาะจาบัง เป็นเกาะขนาดเล็กอยู่ห่างจากเกาะอาดังราว 20 นาที บริเวณก้อนหินใต้น้ำรอบ ๆ เกาะจาบังเป็นแหล่งปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล และฝูงปลาที่มีสีสันสวยงาม ระดับน้ำลึกราว 15-30 ฟุตของกองหินบริเวณนี้ ทำให้เหมาะแก่การดำน้ำตื้นในลักษณะการดำผิวน้ำและสามารถดำน้ำลึกได้, หมู่เกาะดง เกาะดงเป็นเกาะที่อยู่นอกสุดของหมู่เกาะอาดัง ราวี ห่างจากเกาะอาดังราว 1 ชั่วโมง มีแหล่งปะการังน้ำตื้นและปะการังน้ำลึก เกาะดง ยังมีเกาะบริวารอยู่โดยรอบราว 4-5 เกาะ โดยมีเกาะหินซ้อนที่มีลักษณะโดดเด่นเหมือนก้อนหินที่วางซ้อนกันเป็นชั้น ๆ
เกาะหินงาม นอกจากจะได้ชมความงามของก้อนหินกลมมนบนเกาะแล้ว บริเวณด้านหลังเกาะหินงามยังมีแนวปะการัง ดอกไม้ทะเล ปลาการ์ตูน น้ำใสเหมาะแก่การดำน้ำตื้น, เกาะผึ้ง เกาะเล็ก ๆ อยู่ระหว่างเกาะราวีและเกาะดง มีกัลปังหาและปะการังแข็งอยู่บริเวณใกล้ร่องน้ำ เหมาะสำหรับดำน้ำ และเกาะหินขาว เป็นจุดดำน้ำตื้นอีกจุดหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้เกาะหลีเป๊ะ มีปะการังอ่อน ปะการังแข็ง และฝูงปลาเป็นจำนวนมาก
เกาะกระดาน
เกาะกระดาน เป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง มีเนื้อที่ 600 ไร่ ซึ่ง 5 ใน 6 ส่วนของเกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่เหลือเป็นของเอกชน เกาะกระดานมีชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการังซึ่งเป็นปะการังน้ำตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากสีหลายพันธุ์ บนเกาะมีที่พักบริการทั้งของเอกชน และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เกาะช้าง
เกาะช้าง จังหวัดตราด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ อีกแห่งหนึ่งของประเทศ เพราะมีธรรมชาติอันงดงามทั้งบนบกและในทะเล มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก มีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำ มีการคมนาคมที่สะดวกเพราะมีสนามบินอยู่ใกล้เคียง ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว และเติมเต็มให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ เกาะช้างเหมาะสำหรับการไปเที่ยวทั้งเป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัว และไปกับคู่รัก
นอกจากนี้ เกาะช้างยังมีชายหาดธรรมชาติสวยงามอยู่มากมายเรียงรายอยู่ตลอดชายฝั่งด้านตะวันตก เช่น หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ และมีเกาะขนาดเล็กรายล้อมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก เช่น เกาะคลุ้ม เกาะเหลายา เกาะง่าม เกาะไม้ซี้ใหญ่ เกาะหวาย เกาะกระ เกาะรัง เกาะมันนอก เกาะมันใน เกาะกระดาด เกาะหมาก เกาะขาม ฯลฯ
ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะช้าง คือ ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ส่วนเดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกที่สุด นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง
เกาะกูด
เกาะกูด เป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลตราด ลักษณะโดยทั่วไปของเกาะยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิดลำธาร สายน้ำ ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อบนเกาะกูด คือ น้ำตกคลองเจ้า จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นบนจะมีลักษณะเป็นลำธาร ส่วนชั้นล่างเป็นลำธารจากน้ำตกขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะแก่การเล่นน้ำอย่างมาก น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 ทรงพระราชทานนามว่า "น้ำตกอนัมก๊ก" เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือกษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจลาจลในสมัยรัชกาลที่ 1
ทางฝั่งตะวันตกของเกาะตั้งแต่อ่าวตาติ้น หาดคลองยายกี๋ แหลมหินดำ หาดคลองเจ้า หาดง่ามโข่ แหลมบังเบ้า หาดอ่าวพร้าว ไปจนสุดปลายแหลมเทียน และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันออกที่น่าสนใจ ได้แก่ อ่าวสับปะรด แหลมศาลา อ่าวยายเกิด อ่าวคลองหิน อ่าวจาก ล้วนแต่เป็นหาดที่มีหาดทรายสวยงาม และน้ำทะเลใส มีธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด นอกจากนี้ บนเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์ แนวปะการังนานาชนิดและปลาทะเลสีสันสวยงาม ในบริเวณทะเลด้านในของตัวเกาะรวมทั้งเกาะแรด และเกาะไม้ซี้ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเกาะกูด
เกาะกระดาด
เกาะกระดาด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหมาก มีพื้นที่ 1,200 ไร่ เป็นเกาะกลางทะเลกว้างที่มีสัณฐานแบนราบราวกับแผ่นกระดาษ มีต้นกระดาดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ชื่อว่า "เกาะกระดาด" นับเป็นเกาะเดียวในประเทศไทยที่มีการออกโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากฝรั่งเศสได้เข้ามาล่าอาณานิคมในแถบเอเชียอาคเนย์ และพยายามยึดครองดินแดนของไทย เกาะกระดาดก็เป็นที่หมายหนึ่งของฝรั่งเศสด้วย รัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกโฉนดที่ดินของเกาะ
สำหรับเกาะกระดาดมีหาดทรายยาวขาวสะอาด มีแนวปะการังที่สวยงามตลอดชายฝั่ง บนเกาะมีที่พัก ช่วงเวลาที่เหมาะท่องเที่ยว คือ ช่วงเดือนตุลาคม-พฤษภาคม เพราะมีคลื่นลมน้อยที่สุด และเกาะกระดาดเป็นเกาะที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand
เกาะเต่า
เกาะเต่า เป็นเกาะที่ได้ชื่อว่าเป็น "เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย" เนื่องจากเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกขนาดใหญ่และสวยงาม อันเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากชนิดจำนวนมาก เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง ที่นักดำน้ำทั่วโลกต่างพากันหมุนเวียนมาเยี่ยมเยือนและสัมผัสกับโลกใต้ทะเลของเกาะสวรรค์แห่งนี้ ปัจจุบันจึงมีโรงเรียนสอนดำน้ำหลายแห่งมาเปิดกิจการบนเกาะ และมีโรงเรียนสอนดำน้ำจากที่อื่น ๆ นิยมแวะเวียนมาใช้เกาะเต่าเป็นสถานที่ฝึกสอนกันอยู่เสมอ
นอกจากนี้ เกาะเต่ายังมีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ สวยงาม และสงบเงียบ อีกหลายแห่งรอบเกาะ ที่เติมเต็มให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสมกับฉายา "เกาะสวรรค์" และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคและของประเทศ ในอดีตบริเวณชายหาดรอบ ๆ เกาะเต่าจึงเต็มไปด้วยเต่าที่มาหาแหล่งวางไข่เป็นจำนวนมาก อันเป็นที่มาของชื่อ "เกาะเต่า" นั่นเอง
พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเป็นภูเขา มีชายหาดและอ่าวเว้าแหว่งต่าง ๆ มากมายถึง 11 อ่าว และมีแหลมหินถึง 10 แหลม มีชายฝั่งยาว 28.6 กิโลเมตร และมีแนวปะการังยาวถึง 8 กิโลเมตร สภาพปะการังมีความกว้างเฉลี่ยถึง 200 เมตร บนเกาะมีถนนคอนกรีตเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักเพียงสายเดียว ทอดยาวจากหัวเกาะถึงท้ายเกาะ รวมความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร และมีถนนดินลูกรังที่ผู้ประกอบการที่พักแห่งต่าง ๆ สร้างขึ้น แยกจากถนนสายหลักอีกหลายสาย ปัจจุบันมีกิจการที่พักและบังกะโลเปิดให้บริการอยู่มากมายร่วมร้อยแห่งกระจายอยู่ทั่วเกาะ โดยเฉพาะตามชายหาดต่าง ๆ
เกาะพีพี
เกาะพีพี หรือหมู่เกาะพีพี เป็นอัญมณีเลอค่าแห่งทะเลอันดามัน ที่ในวันนี้โด่งดังติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก ด้วยความงดงามของเวิ้งอ่าวคู่ของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัมอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บวกกับทะเลในสีเขียวมรกตสวยใส ที่โอบล้อมหาดทรายขาวนวลละเอียดราวแป้งของอ่าวมาหยา พร้อมแนวปะการังและสรรพชีวิตหลากสีสันนานาพันธุ์ในโลกใต้ทะเล สิ่งเหล่านี้ คือ แม่เหล็กที่ดึงดูดให้นักเดินทางนับล้านชีวิตจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลมายังหมู่เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ เพื่อจะมาเยี่ยมเยือนและสัมผัสให้เห็นกับตาตัวเองว่า หมู่เกาะพีพีนั้นงดงามสมกับที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นเกาะที่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก และคู่ควรกับที่ได้ฉายาว่า "มรกตแห่งอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี" เพียงใด
เกาะพีพีเป็นหมู่เกาะกลางทะเลอันดามันของไทย ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอน และ เกาะพีพีเล และมีเกาะขนาดเล็กอยู่ใกล้เคียงอีก 4 เกาะ คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน
ซึ่งศูนย์กลางของหมู่เกาะพีพีอยู่ที่เกาะพีพีดอน โดยมีอ่าวต้นไทรเป็นที่ตั้งของท่าเรือเกาะพีพี มีที่พักและร้านค้าต่าง ๆ ตั้งอยู่หนาแน่น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าจากอ่าวต้นไทรขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขาความสูง 180 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ที่มองเห็นเวิ้งอ่าวคู่ของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัมอันสวยงามและโด่งดังไปทั่วโลกได้ นอกจากเวิ้งอ่าวคู่แล้ว ที่เกาะพีพีเลยังมีทะเลในสีมรกตและอ่าวมาหยาที่งดงามโดดเด่นอยู่ในอ้อมกอดของเขาหินปูน และมีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากภาพยนตร์เรื่องเดอะบีช ที่มาใช้อ่าวมาหยาเป็นสถานที่ถ่ายทำ นอกจากนี้ บริเวณเกาะพีพีเลยังเป็นจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึกที่สวยงามและเป็นที่นิยมแห่งหนึ่งด้วย
ทะเลแหวก
ปรากฏการณ์ทะเลแหวกจะเกิดขึ้นทุกวันขึ้นหรือแรม 12 ค่ำ ไปจนถึง 5 ค่ำ เมื่อระดับน้ำลดลงต่ำสุดจนปรากฏสันทรายเสมือนทะเลแหวกออกจนกลายเป็นหาดทรายสีขาวสะอาด เชื่อมเกาะทั้งสามเกาะ ได้แก่ เกาะทัพ เกาะหม้อ และเกาะด้ามหอกด้ามขวานหรือเกาะไก่อย่างน่าอัศจรรย์ (ทั้งสามเกาะนี้อยู่ใกล้กับเกาะปอดะ) ฤดูกาลท่องเที่ยว คือ เดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที
เกาะเสม็ด
เกาะเสม็ด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดระยอง ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศ และเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศยอดนิยมแห่งหนึ่งสำหรับคนกรุงเทพฯ เพราะมีธรรมชาติอันงดงาม มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไป-กลับได้ในวันเดียว เกาะเสม็ดเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก ที่ราคาไม่แพงนัก จึงถือเป็นเกาะเปี่ยมเสน่ห์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบอีกแห่งหนึ่งในปัจจุบัน
เกาะเสม็ดมีหาดทรายธรรมชาติสวยงามที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ได้แก่ หาดทรายแก้ว อ่าวน้อยหน่า อ่าวลูกโยน อ่าวไผ่ อ่าวพุทรา อ่าวทับทิม อ่าวลุงดำ อ่าวช่อ อ่าวตะวัน อ่าววงเดือน อ่าวเทียน อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว อ่าวปะการัง อ่าวกะรัง และอ่าวพร้าว นอกจากจะมีชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลเย็นใสน่าลงไปแหวกว่ายแล้ว เกาะเสม็ดยังมีกิจกรรมหลากหลายแห่งให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำ จึงเหมาะสำหรับการไปเที่ยวทั้งเป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัว และไปกับคู่รัก
เกาะพยาม
เกาะพยาม จังหวัดระนอง เป็นเกาะขนาดใหญ่ พื้นที่ประมาณ 35 ตารางกิโลเมตร อยู่ใกล้เกาะช้าง มีชาวบ้านอาศัยอยู่บนเกาะประมาณ 160 ครัวเรือน ชาวบ้านมีอาชีพทำสวนมะม่วงหิมพานต์ สวนยางพาราและประมงชายฝั่ง กิจกรรมบนเกาะจะมีการตกปลา ขี่จักรยานรอบเกาะ และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำดูปะการัง เกาะพยามถือเป็นแหล่งดูปะการังที่สมบูรณ์สวยงาม และด้านทิศตะวันออกของเกาะไม่มีหาดทราย แต่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน และมีชาวเลเผ่ามอแกนมาอาศัยอยู่เป็นบางครั้ง บนเกาะพยามมีที่พักบริการนักท่องเที่ยว
ขอบคุณข้อมูลจาก : Kapook.com