สำหรับนักลงทุนอสังหาฯมือใหม่ทั้งหลายที่ยังไม่เคยปล่อยเช่าบ้านมาก่อน วันนี้ทีมงานบ้านดีจะมาแนะนำ 3 ขั้นตอนง่ายๆ ที่ท่านสามารถทำได้ด้วยตัวเองดังนี้ค่ะ
อันที่จริงขั้นตอนนี้ นักลงทุนอสังหาฯควรมีแผนการลงไว้ตั้งแต่แรกก่อนการตัดสินใจซื้อบ้าน และมีการคำนวนรายได้ที่ชัดเจนไว้ก่อนแล้ว โดยท่านสามารถอิงจากราคาตลาด หรือบ้านเช่าบริเวณใกล้เคียงเพื่อนำมาประเมินในการตั้งราคาค่าเช่าบ้าน โดยขอยกตัวอย่างการคำนวนและวางแผนตัวเลขสั้นๆดังนี้
บ้านทาวน์โฮม ที่ท่านซื้อมีมูลค่า 2 ล้านบาท ผ่อนธนาคารอยู่ที่เดือนละ 10,000 บาทถ้วน ราคาปล่อยเช่าในตลาดอยู่ที่ 6,000 – 8,000 บาท สิ่งที่ท่านต้องกลับมาทำการบ้านคือ ราคาในตลาดที่ว่าเป็นบ้านในรูปแบบไหน และตัวบ้านของท่านใกล้เคียงกับแบบไหนมากที่สุด หากบ้านท่านฟังชั่นก์ใกล้เคียงกับบ้านที่ปล่อยเช่าอยู่ที่ 8,000 บาท แต่บ้านท่านอาจจะใหม่กว่า มีเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ท่านสามารถอิงจากราคา 8,000 บาท และบวกเพิ่มเข้าไปได้อีกจากสิ่งที่บ้านของท่านมี หากท่านสามารถปล่อยเช่าได้ที่ราคา 10,000 บาท เท่ากับท่านจะไม่ต้องเพิ่มเงินในการผ่อนเลย
เพิ่มเติม กรณีปล่อยเช่าได้ต่ำกว่าราคาผ่อน ไม่ได้หมายความว่าท่านจะขาดทุนเสมอไป ท่านสามารถนำเงินที่ผ่อนสมทบในการผ่อนไปทุกๆเดือน มาบวกเพิ่มเป็นราคาเมื่อตอนที่ขายก็ได้
สำหรับวิธีการหาลูกค้าที่นิยมทำการจะมีอยู่ 3 วิธี คือ
รูปแบบของสัญญา มีให้ท่านเลือกหลากหลาย แนะนำให้ค้นข้อมูลทาง Internet เลือกสัญญาที่อ่านดูแล้ว ครอบคลุมกับสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด กรอกรายละเอียดและระบุสิ่งที่ท่านและลูกค้าต้องการ ให้ครอบคลุมไว้ก่อน ดีกว่ามาปวดหัว ทีหลังเมื่อเกิดปัญหา
สำหรับกรณีที่ระหว่างปล่อยเช่า แล้วเกิดปัญหา เช่น อุปกรณ์บางอย่างในบ้านชำรุด หรือลูกบ้านท่านมือปัญหาปากเสียงกับเพื่อนบ้าน อย่างที่บอกท่านควรทำสัญญาให้ครอบคลุมมากๆ เพราะการมาแก้ปัญหาทีหลัง นั้นชวนปวดหัวและเสียเวลา หากเกิดเหตุอุปกรณ์ภายในบ้านชำรุด ข้อแรกให้ดูว่า อุปกรณ์นั้นชำรุดจากสาเหตุอะไร หากมันเสียด้วยตัวเอง ให้เช็คว่าอยู่ในประกันหรือไม่ อย่างของผู้เขียนเอง เคยเกิดเหตุการณ์ ชักโครกทำงานไม่หยุด โชคดีว่าอยู่ในประกัน เราก็แค่โทรแจ้งฝ่ายบริการหลังการขายของทางโครงการให้ช่วยส่งช่างเข้าไปแก้ไขให้ แต่หากไม่มีประกัน ท่านจะหาช่างเข้าไปซ่อมแซมเอง หรือให้ลูกค้าที่เช่าบ้านหาช่างมา และส่งบิลมาให้ท่านเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายก็ได้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับว่าท่านสะดวกแบบไหน
อีกเรื่องที่อยากแนะนำคือ ตอนนี้ท่านสามารถเช็คแบบออนไลน์ได้แล้วว่า ลูกค้าของท่านชำระค่าน้ำและค่าไฟหรือยัง จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวทีหลังเวลาหมดสัญญาเช่า แล้วพบว่าลูกค้าท่านค้างชำระค่าน้ำมาแล้ว 3 เดือนจนถูกตัดมิเตอร์